โดยปกติ ผิวของเราสามารถ สร้างมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ขึ้นได้เอง ตามธรรชาติ (Natural Moisturizing Factor หรือ NMF) อยู่แล้ว โดยผิวหน้าของเรา จะมีกลไกในการสร้างความชุ่มชื้นออกมาปลกคลุมผิว มีลักษณะเป็นสารเคลือบผิวขึ้นมา เพื่อช่วยปกป้องชั้นผิว โดยการเก็บกักและป้องกัน การระเหยของน้ำออกจากร่างกาย ส่งผลให้ผิวของเรา มีความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น และดูมีความชุ่มชื้นตลอดเวลาแม้ไม่ทาครีม
ผิวที่มีความชุ่มชื้น เป็นหนึ่งในลักษณะที่บ่งบอกว่าผิวของคุณมีสุขภาพที่ดี ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวของเราได้
แต่ปัญหาเรื่องผิวขาดความชุ่มชื้น ที่เกิดขึ้นกับเรา โดยที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ นั่นก็คือ พบว่าในแต่ละวัน เรามีการสูญเสียน้ำ ผ่านการระเหยของน้ำออกจากชั้นผิว (transepidermal water loss) โดยเฉลี่ยประมาณ 400 มิลลิลิตร/วัน และอาจจะสูญเสียเพิ่มมากกว่าปกติ โดยมีปัจจัยต่างๆ มาช่วยกระตุ้นให้เกิดปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้นได้อีก เช่น การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานานๆ อากาศหนาว การชำระล้างต่างๆ ด้วย น้ำยา สบู่ แชมพู เป็นต้น ทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้น (NMF) ง่ายกว่าปกติ เมื่อผิวเราขาดความชุ่มชื้นแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาอะไรตามบ้าง มาดูกันเลยคร่า
ปัญหาผิวที่เกิดจากผิวขาดความชุ่มชื้น
- เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ง่าย
- ผิวแห้ง แดง คัน
- ผิวเกิดการอักเสบได้ง่าย
- ผิวลอกเป็นขุย
- ผิวไม่เรียบเนียน
- ผิวแพ้ง่าย
- ผิวแห้งกร้าน
- เครื่องสำอางอยู่ไม่ทน หรือ ตกร่อง
- หน้าหมองคล้ำ
- เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ง่าย
- ต่อมไขมันก็จะผลิตความมันออกมามากขึ้น เพื่อปรับสมดุลผิวไม่ให้ผิวขาดน้ำเกินไป
- เป็นสิวง่ายขึ้น
- เซลล์ผิวเก่าผลัดออกไม่หมด
- ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
หากปล่อยให้ผิวขาดความชุ่มชื้นไว้นาน จะทำให้ผิวของเรา สูญเสียการทำงาน ขาดความกระชับ ยืดหยุ่น และนำไปสู่ผิวอ่อนแอได้ในที่สุดคะ เพราะฉะนั้น “ความชุ่มชื้น” ของผิวพรรณ เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของการดูแลผิว อย่าลืม ทาครีมที่มี มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เป็นประจำทุกวัน เพื่อไปเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวของเรากันนะคะ